พริมโรส (Primrose) มีถิ่นกำเนิดอยู่ในลาตินอเมริกา เป็นพืชใน
เขตหนาวลำต้นสูง มีดอกสีเหลืองกลีบบาง ลักษณะของดอกจะ
เป็นก้านและดอกจะมีลักษณะแผ่กว้าง ในฝักของดอกพริมโรส
(Primrose) จะมีเมล็ดสีน้ำตาลและมีน้ำมันชนิดหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ออยส์(Evening Primrose Oil) อยู่ในเมล็ด
ซึ่งน้ำมันดังกล่าวนี้มีสารประกอบสำคัญคือ กรดไขมันจำเป็นไม่
อิ่มตัว (Essential Fatty Acid) ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้
ชนิดโอเมก้า 6 ได้แก่ กรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) และกรด
แกมมาไลโนเลนิก (Gamma Linolenic acid – GLA) ซึ่งทำ
หน้าที่เป็นองค์ประกอบหลักของเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell membrane)
มีคุณสมบัติในการป้องกันการสูญเสียน้ำของเซลล์ผิวหนังผิวจึงคง
ความชุ่มชื่น สดใส เปล่งปลั่ง และมีน้ำมีนวล LA ใน น้ำมันอีฟนิ่ง
พริมโรส จะถูกร่างกายเปลี่ยนเป็น GLA โดยเอนไซม์
6-Desaturase ซึ่ง GLA นี้เป็นสารตั้งต้นในกระบวนการสร้าง
พรอสตาแกลนดิน 1 (Prostaglandin E1 – PGE1) ซึ่งเป็นฮอร์
โมนที่มีบทบาทช่วยให้ร่างกายเกิดความสบายตลอดจนป้องกัน
โรคภัยไข้เจ็บต่างๆอาทิช่วยลดการอักเสบป้องกันการอุดตันของ
หลอดเลือด ความดันโลหิตสูง บรรเทาอาการแทรกซ้อนจากโรค
เบาหวาน และที่สำคัญที่สุด คือ รักษาอาการผิดปกติก่อนมีประ
จำเดือน
ประโยชน์ของน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส
จากการที่ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส อุดมไปด้วย GLA ทำให้มันมีคุณ
สมบัติที่ดีในการรักษาโดยจะเปลี่ยนรูปเป็นพรอสตาแกลนดินที่มี
คุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนในการช่วยให้หน้าที่ต่างๆในร่างกายทำ
งานได้ดีขึ้นนอกจากนี้มันยังมีคุณสมบัติในการต้านอาการอักเสบ
ที่ดีด้วย
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสต่ออาการปวดประจำ
เดือนและอาการก่อน และหลังประจำเดือน
อาการที่เกิดขึ้นร่วมกันกับการมีประจำเดือนอันได้แก่ อาการปวด
ศรีษะปวดเมื่อยตามตัวอ่อนเพลีย วิงเวียนศรีษะ ปวดหลัง รวมถึง
อาการคัดหน้าอก เป็นอาการที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้หญิง
เป็นอย่างมาก เป็นผลจากการบริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวมาก
เกินไปทำให้ไขมันถูกเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มมากขึ้น
ในเนื้อเยื่อมดลูก ส่งผลให้มดลูกบีบตัวมากกว่าปกติ ทำให้อาการ
ปวดท้องในขณะที่มีประจำเดือนเกิดขึ้น นอกจากนี้กรดไขมันอิ่ม
ตัวที่มากเกินไปจะทำให้ฮอร์โมนโปรแลคตินเพิ่มมากขึ้น ซึ่งฮอร์
โมนชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการคัดหน้าอก และทำให้เลือดออกมาก
เป็นผลให้เพิ่มการบีบตัวของเลือดในมดลูก ทำให้มีอาการปวดประ
จำเดือนมากด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ฮอร์โมนโปรแลคตินยังทำให้
เกิดอาการต่างๆ เช่นปวดศรีษะ ปวดหลัง ปวดเมื่อยรวมถึงอาการ
อ่อนเพลียขณะมีประจำเดือน
การบริโภค น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ซึ่งมีกรดแกมมาไลโนเลนิก
(GLA) สามารถช่วยลดอาการปวดประจำเดือน อาการก่อน
และหลังประจำเดือน อาการคัดหน้าอกลงได้ โดยต้องบริโภคทุก
วัน ไม่ใช่บริโภคเฉพาะในขณะที่เป็นประจำเดือน เพราะร่างกาย
ต้องการเวลาในการสร้างพรอสตาแกลนดิน 1(Prostaglandin
E1 – PGE1) เพื่อให้ช่วยลดอาการปวดให้ลดลง
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับ โรคเยื่อบุมดลูกอยู่ผิดที่
ตามปกติ เยื่อบุมดลูกอยู่ในโพรงของมดลูกเป็นเนื้อเยื่อที่ตอบ
สนองต่อระดับของฮอร์โมนเพศเอสโตรเจนและโปรเจสเตอ
โรน เมื่อถึงรอบเดือนเยื่อบุมดลูกจะหนาตัวขึ้น เพราะถูกฮอร์
โมนเพศกระตุ้นแต่พอฮอร์โมนเพศลดระดับลงเยื่อบุมดลูกจะ
สลายตัวออกจากโพรงมดลูก หลุดออกมาเป็นประจำเดือน
เมี่อออกมาหมดแล้ว และมีฮอร์โมนเพศมากระตุ้นอีก เยื่อบุ
มดลูกจะหนาขึ้นเหมือนเดิม และเมื่อระดับฮอร์โมนเพศลดลง
ก็จะออกมาเป็นประจำเดือนของเดือนถัดไป
แต่ในบางครั้งเยื่อบุมดลูกเกิดอยู่ผิดที่กล่าวคือ ไม่อยู่ในโพรง
มดลูก แต่กลับไปอยู่ที่รังไข่บ้าง ช่องเชิงกรานบ้าง ดังนั้นเมื่อ
ฮอร์โมนเพศมีระดับสูง เยื่อบุมดลูกที่อยู่ผิดที่จะหนาขึ้น และ
เมื่อระดับฮอร์โมนเพศลดลงก็จะออกมาเป็นเลือดแต่เลือดที่
ออกมานี้จะระบายออกมาทางช่องคลอดเช่นเยื่อบุมดลูกที่อยู่
ในโพรงมดลูกไม่ได้ เลือดที่ออกมาจะถูกขังอยู่เป็นถุงน้ำหรือ
ซีสต์ ในรังไข่บ้างช่องเชิงกรานบ้าง ซึ่งถ้าก้อนมีขนาดใหญ่ก็
อาจจะต้องทำการผ่าตัด ดังนั้นกรดไขมันจำเป็น ซึ่งก็คือ กรด
แกมมา ไลโนเลนิก (GLA) ที่มีอยู่ในน้ำมันอีฟนิ่ง พริมโรสจึง
มีบทบาทต่อโรคเยื่อบุมดลูกอยู่ผิดที่เป็นอย่างมาก กล่าวคือ
กรดแกมมาไลโนเลนิก ถูกเอาไปสร้างพรอสตาแกลนดิน
1(Prostaglandin E1 – PGE1) สามารถบรรเทาอาการอักเสบ
ของก้อนเนื้อได้ทำให้อาการปวดลดลง
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสกับโรคไขข้ออักเสบ
ไขข้ออาจมีโอกาสอักเสบได้ เนื่องจากการใช้งาน โดยเฉพาะ
อย่างยิ่ง ข้อเข่า ข้อเท้า ข้อมือ ข้อนิ้ว ที่ทำงานหนัก แต่การ
ซ่อมสร้างต้องกระทำอย่างรวดเร็ว เมื่อมีอายุมากขึ้นความ
สามารถในการซ่อมสร้างอาการอักเสบของข้อต่างๆของร่าง
กายนั้นลดน้อยลง จึงเกิดอาการอักเสบและมีอาการปวดข้อใน
ผู้สูงอายุได้ นอกจากนี้ยังมีโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์ซึ่งเป็น
โรคไขข้ออักเสบหลายๆข้อทั่วร่างกายเกิดจากภูมิต้านทานไว
เกินและมาทำร้ายเนื้อเยื่อของไขข้อและเนื้อเยื่อรอบข้อ ในผู้
ป่วยที่เป็นโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์นี้ จะมีระดับพรอสตา
แกลนดิน1(Prostaglandin E1–PGE1) ที่รักษาอาการอักเสบ
ต่ำมาก แต่มีระดับพรอสตาแกลนดิน 2 ที่ก่อให้เกิดอาการอัก
เสบและเจ็บปวดมากกว่าปกติ
โดยปกติ การรักษาอาการอักเสบของข้อเป็นหน้าที่ของพรอส
ตาแกลนดิน 1 (Prostaglandin E1 – PGE1) ซึ่งมีอยู่ในน้ำมัน
อีฟนิ่งพริมโรส จะทำหน้าที่คอยบรรเทาอาการอักเสบและอา
การบวมรอบข้อลงได้
จากการศึกษาทดลองใช้ในผู้ป่วยเป็นเวลานาน 6 เดือน พบว่า
ผู้ป่วยที่รับประทาน น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จะให้ผลลดอาการ
ปวดและอักเสบตามไขข้อได้ดีกว่ายาหลอกอย่างชัดเจน
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสกับโรคเบาหวาน
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส สามารถช่วยป้องกันอาการเซลประสาทถูก
ทำลายจากโรคเบาหวานจากการวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่า GLA ในอีฟ
นิ่งพริมโรสสามารถช่วยป้องกันอาการดังกล่าวได้ และในบาง
รายยังสามารถทำให้เซลประสาทคืนกลับมาเหมือนเดิมได้ด้วย
อาการปลายประสาทอักเสบ (neuropathy) นั้นจะพบได้บ่อยใน
ผู้ป่วยโรคเบาหวาน จากการศึกษาที่นานนับปี มีผลวิจัยออกมาว่า
อาการชาตามปลายประสาท อาการเจ็บปวดแปลบๆ และอาการ
สูญเสียความรู้สึกในผู้ป่วย เบาหวาน จะลดน้อยลงจากชัดเจนใน
รายที่รับประทาน น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทาน
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสกับปัญหาโรคอื่นๆ
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับผื่นแพ้และกลากน้ำนมผู้ที่มีอาการของ
ผื่นแพ้ โดยเฉพาะในเด็กที่เป็นกลากน้ำนม ร่างกายไม่สามารถ
เปลี่ยนกรดไขมันโอเมก้า 6 ชนิดกรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA)
ให้เป็นกรดแกมมาไลโนเลนิก(GLA) ได้ หรือถ้าเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยน
ได้น้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเนื่องจากขาด
เอนไซม์ในปฏิกิริยาชีวเคมีบางชนิดหากเด็กจำเป็นต้องกินนมวัว
และทำให้เกิดกลากน้ำนม เนื่องจากในนมวัวกรดไขมันชนิด
กรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) ซึ่งเด็กส่วนหนึ่งไม่มีเอนไซม์
บางตัว จึงไม่สามารถเปลี่ยนกรดไขมันดังกล่าวให้เป็นพรอสตา
แกลนดิน 1(Prostaglandin E1 – PGE1) แบบนมแม่ได้จึงเกิด
อาการแพ้ขึ้น ดังนั้นน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสจึงช่วยลดอาการแพ้นี้
ได้ โดยการทาที่ผิวหนังเพื่อให้น้ำมันซึมผ่านเข้าไป
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับผิวพรรณ
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่น ปรับสภาพผิวที่แห้งกร้านให้กลับดู
นุ่มนวลสดใส ลดริ้วรอย และความหมองคล้ำของผิวพรรณ ช่วย
ลดการเกิดสิวอุดตัน ตลอดจนช่วยรักษาอาการผิดปกติทางผิวหนัง
เช่น ผิวหนังแห้ง รวมถึงอาการผมร่วง มีรังแค และเล็บเปราะได้
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับ โรค ไข้หวัด
หลังจากการติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดร่างกายจะอ่อนเพลียเสมอ
ทั้งนี้เพราะการติดเชื้อหวัดจะกระทบต่อการดูดซึมกรดไขมันจำ
เป็นชนิดกรดไลโนเลอิก(Linoleic - LA) เข้าสู่ร่างกายอีกทั้งยัง
ยับยั้งการเปลี่ยนกรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) ไม่ให้เป็นกรด
แกมมาไลโนเลนิก (GLA) อีกด้วยในขณะที่เป็นหวัดร่างกายจึง
ขาดกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า 6 อย่างรุนแรงทำให้เกิดอาการ
ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว และเกิดอาการอ่อนเพลียอย่างรุนแรงซึ่ง
การบริโภค น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จะสามารถบรรเทาอาการหวัด
ลงได้
เขตหนาวลำต้นสูง มีดอกสีเหลืองกลีบบาง ลักษณะของดอกจะ
เป็นก้
(Primrose) จะมีเมล็ดสีน้ำตาลและมีน้ำมันชนิดหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ออยส์(Evening Primrose Oil) อยู่ในเมล็ด
ซึ่งน้ำมันดังกล่าวนี้มี
อิ่มตัว (Essential Fatty Acid) ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้
ชนิดโอเมก้า 6 ได้แก่ กรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) และกรด
แกมมาไลโนเลนิก (Gamma Linolenic acid – GLA) ซึ่งทำ
หน้าที่เป็นองค์ประกอบหลั
มีคุณสมบัติในการป้องกันการสู
ความชุ่มชื่น สดใส เปล่งปลั่ง และมีน้ำมีนวล LA ใน น้ำมันอีฟนิ่ง
พริมโรส จะถูกร่างกายเปลี่ยนเป็น GLA โดยเอนไซม์
6-Desaturase ซึ่ง GLA นี้เป็นสารตั้งต้นในกระบวนการสร้าง
พรอสตาแกลนดิน 1 (Prostaglandin E1 – PGE1) ซึ่งเป็นฮอร์
โมนที่มีบทบาทช่
โรคภัยไข้เจ็บต่างๆอาทิช่วยลดการอักเสบป้องกันการอุดตันของ
หลอดเลือด ความดันโลหิตสูง บรรเทาอาการแทรกซ้อนจากโรค
เบาหวาน และที่สำคัญที่สุด คือ รักษาอาการผิดปกติก่อนมี
จำเดือน
ประโยชน์ของน้ำมันอีฟนิ่งพริ
จากการที่ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส อุดมไปด้วย GLA ทำให้มันมีคุณ
สมบัติที่ดีในการรักษาโดยจะเปลี่ยนรูปเป็นพรอสตาแกลนดินที่มี
คุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนในการช่วยให้หน้าที่ต่างๆในร่างกายทำ
งานได้ดีขึ้นนอกจากนี้มันยังมีคุณสมบัติในการต้านอาการอักเสบ
ที่ดีด้วย
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสต่
เดือนและอาการก่
อาการที่เกิดขึ้นร่วมกันกั
ศรีษะปวดเมื่อยตามตัวอ่อนเพลีย วิงเวียนศรีษะ ปวดหลัง รวมถึง
อาการคัดหน้าอก เป็นอาการที่สร้างความเดือดร้
เป็นอย่างมาก เป็นผลจากการบริโภคอาหารที่มี
เกินไปทำให้ไขมันถูกเปลี่ยนเป็นฮอร์
ในเนื้
ปวดท้องในขณะที่มี
ตัวที่
โมนชนิดนี้จะทำให้เกิ
เป็นผลให้เพิ่มการบีบตัวของเลื
จำเดือนมากด้
เกิดอาการต่างๆ เช่นปวดศรีษะ ปวดหลัง ปวดเมื่อยรวมถึงอาการ
อ่อนเพลี
การบริโภค น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ซึ่งมีกรดแกมมาไลโนเลนิก
(GLA) สามารถช่วยลดอาการปวดประจำเดือน อาการก่อน
และหลังประจำเดือน อาการคัดหน้าอกลงได้ โดยต้องบริโภคทุก
วัน ไม่ใช่บริโภคเฉพาะในขณะที่เป็นประจำเดือน เพราะร่างกาย
ต้
E1 – PGE1) เพื่อให้ช่วยลดอาการปวดให้ลดลง
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับ โรคเยื่อบุมดลูกอยู่ผิดที่
ตามปกติ เยื่อบุมดลูกอยู่ในโพรงของมดลูกเป็นเนื้อเยื่อที่ตอบ
สนองต่
โรน เมื่อถึงรอบเดือนเยื่อบุมดลู
โมนเพศกระตุ้นแต่
สลายตั
เมี่
มดลูกจะหนาขึ้นเหมือนเดิ
ก็
แต่ในบางครั้งเยื่อบุมดลูกเกิดอยู่ผิดที่กล่าวคือ ไม่อยู่ในโพรง
มดลูก แต่กลับไปอยู่ที่รังไข่บ้าง ช่องเชิงกรานบ้าง ดังนั้นเมื่อ
ฮอร์โมนเพศมีระดับสูง เยื่อบุมดลูกที่อยู่ผิดที่
เมื่อระดับฮอร์โมนเพศลดลงก็
ออกมานี้
ในโพรงมดลูกไม่
ซีสต์ ในรังไข่บ้างช่องเชิงกรานบ้าง ซึ่งถ้าก้อนมีขนาดใหญ่ก็
อาจจะต้
แกมมา ไลโนเลนิก (GLA) ที่มีอยู่ในน้ำมันอีฟนิ่ง พริ
มีบทบาทต่อโรคเยื่อบุ
กรดแกมมาไลโนเลนิก ถูกเอาไปสร้างพรอสตาแกลนดิน
1(Prostaglandin E1 – PGE1) สามารถบรรเทาอาการอักเสบ
ของก้
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสกับโรคไขข้
ไขข้ออาจมีโอกาสอักเสบได้ เนื่องจากการใช้งาน โดยเฉพาะ
อย่างยิ่ง ข้อเข่า ข้อเท้า ข้อมือ ข้อนิ้ว ที่ทำงานหนัก แต่การ
ซ่อมสร้างต้องกระทำอย่
สามารถในการซ่อมสร้
กายนั้นลดน้อยลง จึงเกิดอาการอักเสบและมี
ผู้สูงอายุได้ นอกจากนี้ยังมีโรคไขข้ออักเสบรู
โรคไขข้ออักเสบหลายๆข้
เกิ
ป่วยที่เป็นโรคไขข้ออั
แกลนดิน1(Prostaglandin E1–PGE1) ที่รักษาอาการอักเสบ
ต่ำมาก แต่มีระดับพรอสตาแกลนดิน 2 ที่ก่อให้เกิดอาการอัก
เสบและเจ็
โดยปกติ การรักษาอาการอักเสบของข้อเป็นหน้าที่ของพรอส
ตาแกลนดิน 1 (Prostaglandin E1 – PGE1) ซึ่งมีอยู่ในน้ำมัน
อีฟนิ่งพริมโรส จะทำหน้าที่คอยบรรเทาอาการอั
การบวมรอบข้อลงได้
จากการศึกษาทดลองใช้ในผู้ป่วยเป็นเวลานาน 6 เดือน พบว่า
ผู้ป่วยที่รับประทาน น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จะให้ผลลดอาการ
ปวดและอั
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสกั
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส สามารถช่วยป้องกันอาการเซลประสาทถูก
ทำลายจากโรคเบาหวานจากการวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่า GLA ในอีฟ
นิ่งพริมโรสสามารถช่วยป้องกันอาการดังกล่
รายยังสามารถทำให้
อาการปลายประสาทอักเสบ (neuropathy) นั้นจะพบได้บ่อยใน
ผู้ป่วยโรคเบาหวาน จากการศึกษาที่นานนับปี มีผลวิจัยออกมาว่
อาการชาตามปลายประสาท อาการเจ็บปวดแปลบๆ และอาการ
สูญเสียความรู้สึกในผู้
รายที่รั
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสกับปั
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับผื่นแพ้และกลากน้ำนมผู้ที่มีอาการของ
ผื่นแพ้ โดยเฉพาะในเด็กที่เป็นกลากน้ำนม ร่างกายไม่สามารถ
เปลี่ยนกรดไขมั
ให้เป็นกรดแกมมาไลโนเลนิก(GLA) ได้ หรือถ้าเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยน
ได้
เอนไซม์ในปฏิกิริ
และทำให้เกิดกลากน้ำนม เนื่องจากในนมวัวกรดไขมันชนิด
กรดไลโนเลอิก (Linoleic - LA) ซึ่งเด็กส่วนหนึ่งไม่มีเอนไซม์
บางตัว จึงไม่สามารถเปลี่ยนกรดไขมันดั
แกลนดิน 1(Prostaglandin E1 – PGE1) แบบนมแม่ได้จึงเกิด
อาการแพ้ขึ้น ดังนั้นน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสจึงช่วยลดอาการแพ้นี้
ได้ โดยการทาที่ผิวหนังเพื่อให้น้ำมันซึมผ่านเข้าไป
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับผิวพรรณ
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่น ปรับสภาพผิวที่แห้งกร้านให้กลับดู
นุ่มนวลสดใส ลดริ้วรอย และความหมองคล้ำของผิ
ลดการเกิดสิวอุดตัน ตลอดจนช่วยรักษาอาการผิดปกติ
เช่น ผิวหนังแห้ง รวมถึงอาการผมร่วง มีรังแค และเล็บเปราะได้
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส กับ โรค ไข้หวัด
หลังจากการติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดร่างกายจะอ่อนเพลียเสมอ
ทั้งนี้เพราะการติดเชื้อหวัดจะกระทบต่อการดูดซึมกรดไขมั
เป็นชนิดกรดไลโนเลอิก(Linoleic - LA) เข้าสู่ร่างกายอีกทั้งยัง
ยับยั้งการเปลี่
แกมมาไลโนเลนิก (GLA) อีกด้วยในขณะที่เป็นหวัดร่างกายจึง
ขาดกรดไขมันในกลุ่
ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว และเกิดอาการอ่อนเพลียอย่างรุ
การบริโภค น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จะสามารถบรรเทาอาการหวัด
ลงได้