หากจะให้บอกถึงเกลือแร่สักตัวหนึ่งที่มีประโยชน์มากๆ ต่อร่างกาย
หนึ่งในนั้นจะต้องมีแคลเซียม เรารู้จักแคลเซียม มานานในแง่ของ
การช่วยให้กระดูกแข็งแรง ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อไม่นานนี้มี งานวิจัย
ตัวหนึ่งได้พบว่า แคลเซียม สามารถช่วยต่อต้านได้อย่างดีต่อ
ความดันโลหิตสูงอาการหัวใจกำเริบ อาการปวดก่อนมีประจำเดือน
และมะเร็งลำไส้แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่คนส่วนใหญ่รับประทาน
แคลเซียม น้อยกว่าครึ่งของที่ควรจะได้รับต่อวัน
สำหรับคนที่ไม่สามารถรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงได้ก็
สามารถทดแทนง่ายๆได้ด้วยอาหารเสริม แคลเซียม ที่มีจำหน่าย
อยู่ทั่วไป และราคาไม่แพงโดยมักจะอยู่ในรูปของ แคลเซียมคาร์
บอเนต แคลเซียมกลูโคเนต แคลเซียมซิเตรด แคลเซียมซิเตรด
มาเลต แคลเซียมแลคเตตและแคลเซียมฟอสเฟต และปริมาณที่
ร่างกายจะได้รับแคลเซียมจากอาหารเสริมเหล่านี้ก็จะขึ้นกับว่าใน
แต่ละแบบจะให้แคลเซียม แก่ร่างกายเท่าไร เช่นแคลเซียมคาร์
บอเนตจะให้ปริมาณแร่ธาตุ แคลเซียม ประมาณ 40% แคลเซียม
กลูโคเนตจะให้ปริมาณแร่ธาตุ แคลเซียมประมาณ 9%ทั้งนี้ยังขึ้น
กับการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายด้วย มีการค้นพบว่าแร่ธาตุแคลเซียม
ที่ได้จากแคลเซียมซิเตรดจะถูกดูดซึมได้ดีกว่าที่ได้จากคอร์บอเนต
"แคลเซียม" เป็นธาตุที่พบมากที่สุดในทุกส่วนของร่างกาย โดย
ในร่างกายคน 50 กิโลกรัม จะมีแคลเซียม อยู่ประมาณ 1 กิโลกรัม
ซึ่งเกือบทั้งหมดจะอยู่ในกระดูกและฟัน ดังนั้นในเวลากล่าวถึง
แคลเซียม จึงมักจะนึกถึงเฉพาะกระดูกเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วยังมี
แคลเซียม ส่วนอื่นที่อยู่ในเซลล์ที่ไม่ใช่กระดูกอีกประมาณร้อยละ
1 สำหรับหน้าที่ๆสำคัญของแคลเซียม ก็คือ การสร้างกระดูก ซึ่ง
กระดูกทำหน้าที่เป็นโครงสร้างของร่างกาย รักษารูปร่างและลักษ
ณะของร่างกายให้สวยงามและยังเป็นที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อเป็น
เกราะป้องกันอวัยวะภายในต่างๆ ของร่างกายไม่ให้ได้รับความ
กระทบกระเทือน อย่างไรก็ตาม แคลเซียม มิใช่เป็นเพียงตัวเสริม
สร้างกระดูกให้แข็งแรงเท่านั้น แต่ยังมีหน้าที่สำคัญในการทำงาน
ของเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกายอีกด้วย ได้แก่ การช่วยการแข็งตัว
ของเลือด ทำให้เลือดที่ไหลออกจากบาดแผลเกิดแข็งตัวหยุดไหล
ได้นอกจากนี้แคลเซียมยังเกี่ยวข้องกับการทำงานของกล้ามเนื้อ
และเส้นประสาท ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจปกติและ
การส่งสัญญานประสาทที่ถูกต้อง รักษาความสมดุลของกรดด่าง
ในเลือด และความดันโลหิตให้ปกติ
แคลเซียมเข้าสู่ร่างกายอย่างไร
สำหรับการทำงานของแคลเซียมจะเริ่มจากเมื่อร่างกายได้รับแคล
เซียมจากอาหาร ก็จะถูกกรดในกระเพาะทำให้ แคลเซียมแตกตัว
ได้ดีขึ้นและถูกดูดซึมได้ง่ายขึ้นจากบริเวณลำไส้ส่วนต้น โดยอา
ศัย Calbindin-Dซึ่งปกติแล้วร่างกายจะดูดซึมแคลเซียมได้ประ
มาณร้อยละ 20-40หลังจากนั้น แคลเซียม จะเข้าสู่เลือดผ่านไป
ตามระบบไหลเวียนโลหิตแล้วไปสู่อวัยวะต่างๆ ส่วนใหญ่จะเข้าสู่
กระดูก นอกนั้นเข้าสู่เซลล์ต่างๆในร่างกาย ที่เหลือจะถูกขับออก
ทางปัสสาวะ
โดยปกติทั่วไปแม้กระดูกจะไม่ยืดตัวให้เห็นแต่จะมีแคลเซียม
ผ่านเข้าออกจากกระดูกถึงวันละประมาณ 700 mg ซึ่งแม้ว่า
เกลือแร่ที่ติดอยู่ในกระดูกดูเหมือนจะติดอยู่อย่างถาวร แต่อันที่
จริงแล้วแคลเซียมในกระดูกจะถูกดึงออกพร้อมกับขบวนการละ
ลายกระดูก (resorption) และเสริมเข้าไปพร้อมกับการสร้าง
กระดูกใหม่ (formation) อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ขึ้นกับภาวะโภชนา
การ ปริมาณแคลเซียมความสมดุลของฮอร์โมนและวัย
โดยทั่วไปร่างกายจะพยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะรักษาระดับ
แคลเซียมในเลือดให้ปกติเสมอเพื่อให้อวัยวะต่างๆ ปฏิบัติหน้าที่
ได้อย่างปกติเปรียบให้ง่ายก็เสมือนว่า ระดับ แคลเซียมที่ปกติก็คือ
จำนวนเงินที่ติดกระเป๋าอยู่สำหรับใช้จ่ายในแต่ละวันโดยแคลเซียม
ส่วนที่ถูกขับออกทางปัสสาวะและแคลเซียมที่ใช้เพื่อการซ่อมแซม
กระดูกเปรียบเสมือนค่าใช้จ่ายประจำวันแคลเซียม ในกระดูกเสมือน
เงินฝากในธนาคาร แคลเซียมรับจากอาหารเสมือนรายได้ประจำวัน
ถ้ารายรับมากกว่ารายจ่าย อาจมีเหลือเก็บในธนาคารซึ่งเปรียบ
เสมือนเป็นการสะสมแคลเซียม ในกระดูก ถ้ารายได้น้อยกว่าราย
จ่ายก็ต้้องถอนจากธนาคารเพื่อนำไปใช้จ่ายก็จะทำให้เกิดการขาด
ดุลซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้อยู่เป็นประจำเงินในธนาคารก็จะร่อยหรอไป นั่น
ก็เปรียบได้กับการที่ร่างกายได้รับแคลเซียมไม่พอเพียงต่อความ
พยายามรักษาระดับแคลเซียม ให้ปกติ จึงต้องละลายแคลเซียม
จากกระดูกมาเพิ่มให้กับเลือดทำให้แคลเซียมในกระดูกค่อยๆลด
ลงสุดท้ายแคลเซียมหรือเงินที่ติดกระเป๋าอยู่ก็ลดลงจนไม่พอใช้
นั่นเอง ซึ่งจากการศึกษาพบว่าการสะสมแคลเซียม ของร่างกาย
มนุษย์นั้นเริ่มตั้งแต่ยังเป็นทารกในครรภ์มารดาโดยในแต่ละวัย
ร่างกายสามารถสะสมปริมาณแคลเซียม ในระดับที่แตกต่างกัน
หนึ่งในนั้นจะต้องมีแคลเซียม เรารู้จักแคลเซียม มานานในแง่ของ
การช่วยให้กระดู
ตัวหนึ่งได้พบว่า แคลเซียม สามารถช่วยต่อต้านได้อย่างดีต่อ
ความดันโลหิตสูงอาการหัวใจกำเริบ อาการปวดก่อนมีประจำเดือน
และมะเร็งลำไส้แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่คนส่
แคลเซียม น้อยกว่าครึ่งของที่ควรจะได้รั
สำหรับคนที่ไม่สามารถรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงได้ก็
สามารถทดแทนง่ายๆได้ด้วยอาหารเสริม แคลเซียม ที่มีจำหน่าย
อยู่ทั่
บอเนต แคลเซียมกลูโคเนต แคลเซียมซิเตรด แคลเซียมซิเตรด
มาเลต แคลเซียมแลคเตตและแคลเซียมฟอสเฟต และปริมาณที่
ร่างกายจะได้รับแคลเซียมจากอาหารเสริมเหล่านี้ก็จะขึ้
แต่ละแบบจะให้แคลเซียม แก่ร่างกายเท่าไร เช่นแคลเซียมคาร์
บอเนตจะให้ปริ
กลูโคเนตจะให้ปริมาณแร่
กับการดูดซึมเข้
ที่ได้จากแคลเซียมซิเตรดจะถูกดู
"แคลเซียม" เป็นธาตุที่พบมากที่สุดในทุกส่วนของร่างกาย โดย
ในร่างกายคน 50 กิโลกรัม จะมีแคลเซียม อยู่ประมาณ 1 กิโลกรัม
ซึ่งเกือบทั้งหมดจะอยู่ในกระดู
แคลเซียม จึงมักจะนึกถึงเฉพาะกระดูกเท่
แคลเซียม ส่วนอื่นที่อยู่ในเซลล์ที่ไม่
1 สำหรับหน้าที่ๆสำคัญของแคลเซียม ก็คือ การสร้างกระดูก ซึ่ง
กระดูกทำหน้าที่เป็นโครงสร้
ณะของร่
เกราะป้องกันอวั
กระทบกระเทือน อย่างไรก็ตาม แคลเซียม มิใช่เป็นเพียงตัวเสริม
สร้
ของเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกายอีกด้วย ได้แก่ การช่วยการแข็งตัว
ของเลือด ทำให้เลือดที่
ได้นอกจากนี้แคลเซียมยังเกี่ยวข้องกับการทำงานของกล้
และเส้นประสาท ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหั
การส่งสัญญานประสาทที
ในเลื
แคลเซียมเข้าสู่ร่างกายอย่างไร
สำหรับการทำงานของแคลเซียมจะเริ่มจากเมื่อร่างกายได้รับแคล
เซียมจากอาหาร ก็จะถูกกรดในกระเพาะทำให้ แคลเซียมแตกตัว
ได้ดีขึ้นและถูกดูดซึมได้ง่ายขึ้นจากบริเวณลำไส้ส่วนต้น โดยอา
ศัย Calbindin-Dซึ่งปกติแล้วร่างกายจะดูดซึมแคลเซียมได้ประ
มาณร้อยละ 20-40หลังจากนั้น แคลเซียม จะเข้าสู่เลือดผ่
ตามระบบไหลเวียนโลหิตแล้
กระดูก นอกนั้นเข้าสู่เซลล์ต่างๆในร่างกาย ที่เหลือจะถูกขับออก
ทางปัสสาวะ
โดยปกติทั่วไปแม้กระดูกจะไม่ยืดตัวให้เห็นแต่จะมีแคลเซียม
ผ่านเข้าออกจากกระดูกถึงวั
เกลือแร่ที่ติดอยู่
จริงแล้วแคลเซียมในกระดูกจะถูกดึงออกพร้อมกั
ลายกระดูก (resorption) และเสริมเข้าไปพร้อมกับการสร้
กระดูกใหม่ (formation) อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ขึ้นกับภาวะโภชนา
การ ปริมาณแคลเซียมความสมดุลของฮอร์โมนและวัย
โดยทั่วไปร่างกายจะพยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะรักษาระดับ
แคลเซียมในเลือดให้ปกติเสมอเพื่อให้อวั
ได้อย่างปกติเปรี
จำนวนเงินที่ติดกระเป๋าอยู่สำหรับใช้จ่ายในแต่ละวันโดยแคลเซียม
ส่วนที่ถูกขับออกทางปัสสาวะและแคลเซียมที่ใช้เพื่อการซ่อมแซม
กระดู
เงินฝากในธนาคาร แคลเซียมรับจากอาหารเสมือนรายได้ประจำวั
ถ้ารายรับมากกว่ารายจ่าย อาจมีเหลือเก็บในธนาคารซึ่งเปรี
เสมือนเป็นการสะสมแคลเซียม ในกระดูก ถ้ารายได้น้อยกว่าราย
จ่ายก็ต้
ดุลซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้อยู่เป็
ก็เปรียบได้กับการที่ร่
พยายามรั
จากกระดูกมาเพิ่มให้กับเลือดทำให้แคลเซียมในกระดูกค่อยๆลด
ลงสุดท้ายแคลเซียมหรือเงินที่ติดกระเป๋าอยู่ก็ลดลงจนไม่พอใช้
นั่นเอง ซึ่งจากการศึกษาพบว่าการสะสมแคลเซียม ของร่างกาย
มนุษย์นั้นเริ่มตั้
ร่