Welcome to my blog, hope you enjoy reading
RSS

ประโยชน์ของใบหม่อน และผลหม่อน



ประโยชน์ของใบหม่อน และผลหม่อน
ในใบหม่อน มีโปรตีนสูง และผลหม่อน หรือ Muiberry Fruit
เป็นผลไม้ที่มีสาร Antioxidant สูง มีรสเปรี้ยวอมหวาน เมื่อ
สุกจะมีสีแดงเข้มหรือสีม่วง โดยส่วนใหญ่นิยมนำมาทำเป็นน้ำลูก
หม่อน แยมลูกหม่อน ไวน์ลูกหม่อน ไอศครีมลูกหม่อน เค้กลูก
หม่อน หรือทานสดๆ ก็อร่อยไม่เบาค่ะ

มีผลการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น อเมริกัน โรมาเนีย
อินเดีย พบว่าในใบหม่อนมี สารดีเอ็นเจ (D.N.J) ซึ่งช่วยลดระ
ดับน้ำตาลในเส้นเลือด สารฟายโตสเตอรอล (Phytosterol)
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลหรือไขมันในเส้นเลือด และ
สารกาบา (GABA) ที่ช่วยในการปรับลดความดันโลหิต นอก
จากนี้ยังพบแร่ธาตุ และวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด
รวมไปถึงโปรตีนที่อยู่ในรูปของกรดอะมิโน (Amino) และมี
Flavonoids หรือสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งพบได้ 3 ชนิด คือ
Quercetin, Kaempferol, Polyphenols

นอกจากนี้สรรพคุณตามแพทย์แผนไทยคนไทยแต่โบราณใช้ใบ
หม่อน แก้ตาแดง ตาแฉะ ตามัว ตาฟาง แก้ไอ แก้เจ็บคอ
สำหรับชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานชาใบหม่อนมานานกว่า 60ปี

เมื่อทราบคุณประโยชน์ของหม่อนอย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืมหามารับ
ประทานกันนะค่ะ

สารพัดประโยชน์จากน้ำส้มสายชู


น้ำส้มสายชูมีประโยชน์มากมาย ไม่ใช่แค่รับประทานได้อย่าง
เดียวแต่น้ำส้มสายชูมีประโยชน์สารพัดประการ ที่นำมาบอกเล่า
กันในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของประโยชน์ของน้ำส้มสายชูเท่านั้นนะ
ค่ะ ยังมีอีกมากมายเอาไว้จะมาสาธะยายใหม่อีกในคราวหน้าค่ะ

1. ป้องกันสีผ้าตก
เสื้อผ้าสี เวลาซักสีอาจตกใส่เสื้อตัวอื่น วิธี
แก้ให้ใช้น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย ผสมกับน้ำ 1 กะละมัง จากนั้นแช่ผ้า
สีทิ้งไว้ 15 นาที แล้วซักตามปกติ วิธีจะทำให้สีเสื้อไม่ตกค่ะ

2. เปลี่ยนผ้าสีหมองให้ขาวสะอาด เสื้อผ้าสีขาวเมื่อใช้ไป
นานๆมักเป็นสีขาวขุ่น หากต้องการให้กลับมามีสีขาวสว่างดัง
เดิมให้ผสมน้ำส้มสายชูในปริมาณเท่ากับน้ำยาซักผ้าขาวรวม
กับผงซักฟอกแช่ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วซักตามปกติ จะช่วยให้สี
ผ้ากลับมาขาวสะอาดขึ้นค่ะ ใครมีสีผ้าที่ไม่ขาวสดใสลองวิธี
นี้ดูนะค่ะ

3. ลบคราบเหลืองที่ใต้รักแร้เสื้อ เหงื่อ หรือโรลออน มักจะทำ
ให้เสื้อบริเวณรักแร้เป็นคราบเหลือง วิธีแก้คือ ใช้น้ำส้มสายชูทา
ตรงรอยเปื้อนให้ชุ่ม ทิ้งไว้ 5-10 นาที จากนั้นซักตามปกติ รอย
เปื้อนก็จะหายไปค่ะ

4. เพิ่มความนุ่มให้แปรงสีฟัน ใครที่มีปัญหาซื้อแปรงสีฟันมา
ใหม่แล้วขนแปรงแข็งทิ่มเหงือก ให้นำแปรงสีฟันไปต้มในน้ำส้ม
สายชู 5-10 นาที จะช่วยให้ขนแปรงที่แข็งนิ่มลงได้ค่ะ

5. แก้ปัญหาไข่ติดเปลือก ไข่ที่สดและใหม่มากเกินไป เวลาที่
เรานำมาต้มมักมีปัญหาปอกเปลือกยาก ทำให้ไข่เป็นรอยขรุขระ
ไม่น่ารับประทาน วิธีแก้คือ เติมน้ำส้มสายชูครึ่งช้อนชาลงในน้ำ
ต้มไข่ จะช่วยให้เปลือกไข่ล่อนปอกได้ง่ายขึ้นค่ะ

6. เพิ่มความกรอบให้ผักผลไม้ วิธีคือ ผสมน้ำส้มสายชู 1ช้อน
ชา กับน้ำ 1 กะละมังเล็ก แช่ผักและผลไม้ที่ต้องการทิ้งไว้สัก 5-
10 นาที จากนั้นนำไปล้างน้ำอีกครั้ง เพียงแค่นี้ก็จะได้ผักผลไม้ที่
กรอบอร่อยได้ง่ายๆ แล้วล่ะค่ะ

7. แก้ปัญหาเนื้อปลาเละ เวลาต้มปลาหลายท่านคงเคยเจอ
ปัญหาเนื้อปลาเละ วิธีแก้คือ ใส่น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโตีะ ลงใน
น้ำต้มปลา นอกจากจะทำให้เนื้อปลาไม่เละแล้ว ยังทำให้เนื้อ
ปลามีสีขาวน่ารับประทานอีกด้วยค่ะ

วิธีทดสอบน้ำส้มสายชูว่าปลอมหรือไม่ โดยการหั่นพริกสด
หรือเด็ดใบผักชีแช่ในน้ำส้มสายชู ถ้าน้ำส้มสายชูยังใสแจ๋วพริก
หรือใบผักชียังสด แสดงว่าเป็นน้ำส้มสายชูแท้ แต่ถ้าน้ำส้มสาย
ชูขุ่น พริกหรือใบผักชีเหี่ยวเปื่อยยุ่ย แสดงว่าเป็นน้ำส้มสายชู
ปลอมวิธีทดสอบง่ายๆ อย่าลืมนำไปทำกันดูนะค่ะ

ปริมาณแคลอรี่ของผัก


ผักแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. ผัก ที่ให้พลังงานน้อยจึงรับประทานได้ตามต้องการ มีดังนี้
ผักกาดต่าง ๆ , มะเขือต่าง ๆ , ใบกระเทียม , ดอกกุยช่าย , หัวปลี
ผักกวางตุ้ง , ผักกระเฉด , กะหล่ำปลี , หัวไชเท้า , ผักตั้งโอ๋ ,บวบ
ผักชะอม , ผักคะน้า , ฟักเขียว , แตงกวา , ต้นหอม ,ขึ้นฉ่าย,ผักชี
ถั่วงอก , ผักตำลึง , หน่อไม้ , น้ำเต้า , หัวปลี , ผักบุ้ง , ถั่วพู

2. ผัก ที่ให้พลังงาน 25 แคลอรี่ ต่อ 100 กรัม
(หรือ 1/2 ถ้วยตวง) มีดังนี้
หัวผักกาดเหลือง , ถั่วฝักยาว , หัวผักกาดแดง , ฟักทอง
หอมหัวใหญ่ , เมล็ดถั่วลันเตา , ดอกแค , สะตอ , มะรุม

ท่าบริหารทรวงอก

วันนี้จะมาบอกท่าออกกำลังกายเพื่ออกสวย แบบง่ายๆ ไม่เสียตังค์
เลยสักบาทค่ะ

ท่าที่ 1
ประนมมือขึ้นระดับอก จากนั้นออกแรงดันฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง
เข้าหากัน เกร็งไว้ประมาณ 5-10 วินาที แล้วคลายมือออก ทำซ้ำ
อีก 10ครั้ง หรือเท่าที่มีเวลา ท่านี้สามารถทำได้ในขณะรถติด
ขณะดูทีวี หรือขณะฟังเพลงได้ค่ะ

ท่าที่ 2 ยืนหันหน้าเข้าผนัง วางมือทั้ง 2 ข้างเข้าผนังระดับอกจาก
นั้นออกแรงดันเข้าโดยยืนนิ่งอยู่กับที่ เกร็งไว้ 5-10 วินาที และทำ
ซ้ำอีกอย่างน้อย 10 ครั้ง

และสิ่งที่ไม่ควรทำคือ
1. ไม่ควรอาบน้ำอุ่นจัดเป็นประจำ เพราะอาจทำให้ผิวบริเวณหน้า
อกแห้งเหี่ยวได้

2. ไม่ควรลดน้ำหนักแบบฮวบฮาบ หรือปล่อยให้น้ำหนักขึ้นแบบ
ฮวบฮาบด้วยเช่นกัน เพราะอาจทำให้หน้าอกแตกลายได้

เบต้ากลูแคน

หลายคนคงสงสัยว่า " เบต้ากลูแคน" คืออะไร
" เบต้ากลูแคน " คือ สารประกอบประเภทน้ำตาลหลายโมเลกุล
ชนิดหนึ่ง เป็นใยอาหารที่พบได้ในพืชบางชนิด เช่น ข้าวโอ๊ต เห็ด
หลินจือ ข้างบาร์เล่ย์ ยีสต์ต่างๆ เช่น ยีสต์ดำ ยีสต์จากขนมปัง

จากการวิจัยในหลายประเทศพบว่าใยอาหารเบต้ากลูแคนที่ได้จาก
แหล่งที่ต่างกัน ก็จะให้ประโยชน์ไม่เหมือนกัน บางประเภทช่วยเน้น
ในเรื่องของการลดระดับคอเลสเตอรอล บางประเภทก็ช่วยกระตุ้น
การทำงานของระบบภูมิต้านทานโรคในร่างกาย และเป็นเรื่องยาก
ที่จะสรุปไปเลยว่า เบต้ากลูแคนจากแหล่งไหนดีต่อสุขภาพมากที่
สุด เพราะสุขภาพเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลไม่มีสุขภาพของใคร
จะเหมือนกันได้ บางคนเป็นหวัดบ่อย บางคนคอเลสเตอรอลสูง
บางคนก็เป็นโรคภูมิแพ้ แต่สิ่งที่จะป้องกันคุณจากโรคภัยไข้เจ็บก็
คือภูมิคุ้มกันในร่างกาย

" เบต้ากลูแคน " ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยกระตุ้นการทำงานของ
ร่างกาย จึงเป็นทางออกสำหรับผู้ที่ต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรงแต่
นอกจากอาหารเสริมอย่างเบต้ากลูแคนแล้ว การใส่ใจสุขภาพตัว
เองอย่างการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เลือกรับประทาน
อาหารที่มีประโยชน์ ก็เป็นวิธีที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง และสุขภาพ
ดีอย่างยั่งยืนได้ไม่ยากเลยล่ะค่ะ

วิธีแก้รอยสิว

วิธิแก้รอยสิวด้วยแอปเปิ้ล+น้ำผึ้ง
สิวเป็นปัญหากับผู้ที่เป็นไม่มากก็น้อยใช่ไหมค่ะ เมื่อเป็นแล้วก็มัก
จะทิ้งรอยแดง รอยดำ ให้เจ็บใจเล่นและนานกว่าจะหายอาจจะต้อง
ใช้เวลา 3-6 เดือน

ใครที่กำลังกลุ้มเรื่องรอยแผลจากสิว วันนี้ลองใช้วิธีธรรมชาติกัน
ดูนะค่ะ โดยใช้น้ำผึ้ง และแอปเปิ้ลเขียวที่มีรสเปรี้ยวอมหวานนี่
แหละค่ะ

ก่อนอื่นต้องล้างหน้าให้สะอาด ซับหน้าให้แห้ง จากนั้นใช้เนื้อ
แอปเปิ้ลเขียวครึ่งผล และน้ำผึ้งแท้ 1ช้อนโต๊ะ บดรวมกันให้ละ
เอียดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ทาให้ทั่วใบหน้า เน้นบริเวณที่มีรอย
สิวเป็นพิเศษ ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

สูตรนี้สามารถทำได้ทุกวันจะช่วยให้รอยสิวค่อย ๆ จางลง แล้ว
ยังช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่ม สดใสอีกด้วยค่ะ

น้ำเอนไซม์จากผักผลไม้


น้ำเอนไซม์เป็นเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพที่ดี และสามารถทำเองได้
ง่ายๆ ที่บ้านค่ะ น้ำเอนไซม์จากผักผลไม้นั้น จะต้องคั้นเอาน้ำสดๆ
ด้วยวิธีที่ถูกต้อง และสะอาด ซึ่งมีด้วยกัน 2 วิธี ดังนี้

1. นำผัก หรือผลไม้ที่ต้องการไปสับ ตำ บด ด้วยครกหรือมือเปล่า
แล้วคั้นแยกน้ำออกจากกากด้วยผ้าขาวบาง ก็จะได้น้ำเอนไซม์
แบบธรรมชาติราคาถูกค่ะ

2. การคั้นด้วยเครื่องแยกกาก วิธีนี้จะสะดวกสบายกว่าวิธีแรกโดย
การน้ำผักหรือผลไม้ ที่เตรียมไว้มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงในเครื่อง
แล้วปั่นให้ละเอียด วิธีนี้ก็จะได้น้ำเอนไซม์ออกมาอย่างง่ายดาย

หลังจากได้น้ำเอนไซม์แล้วควรดื่มทันที เพราะเอนไซม์เก็บไว้ได้
ไม่เกินครึ่งชั่วโมง และห้ามเติมเกลือ หรือน้ำตาล เพื่อเพิ่มรสชาติ
เด็ดขาด เพราะเอนไซม์จะถูกทำลาย หรือแม้กระทั่งการนำน้ำเอน
ไซม์แต่ละชนิดมาผสมกันก็ไม่ได้ เพราะเอนไซม์ของพืชผักแต่ละ
ชนิดอาจมีฤทธิ์ทำลายกันเอง

เมื่อดื่มน้ำเอนไซม์แล้ว ร่างกายจะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ทันที
โดยไม่ผ่านการย่อยที่รกะเพาะอาหาร ร่างกายจึงสดชื่นทันตาเห็น

วิธีดื่มน้ำเอนไซม์ให้ได้คุณค่าครบถ้วน ควรผลัดเปลื่ยนหมุนเวียน
ชนิดของผักผลไม้ไปเรื่อยๆ

ตัวอย่างผักผลไม้ที่นำมาทำน้ำเอนไซม์
1. แครอท ประโยชน์ ช่วยล้างไขมันและการทำงานของตับ

2. ขึ้นฉ่ายฝรั่งหรือเซเลอรี่ ประโยชน์ ช่วยทำให้เลือดสะอาดขึ้น
และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล

3. กระเทียม ประโยชน์ ช่วยฆ่าเชื้อโรค

4. แคนตาลูปและแตงโม ประโยชน์ ช่วยการทำงานของไต

5. ลูกใต้ใบ ประโยชน์ ช่วยการทำงานของตับและไต

6. ตำลึง ประโยชน์ ช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร

อาหารควรเลี่ยงเมื่อปวดหัว

11 อาหารควรเลี่ยงเมื่อปวดหัว
เมื่อมีอาการปวดหัว นอกจากการนอนพักผ่อน การกินยาแก้ปวด
แล้วนั้น อาหารก็เป็นส่วนสำคัญที่บางทีก็สามารถช่วยลดอาการ
ปวดหัวของเราได้ แต่อาหารบางชนิดก็อาจจะทำให้อาการปวด
หัวของเราเพิ่มมากขึ้นได้เช่นกันนะค่ะ

ข้อมูลจาก คุณหมอเดวิด บุชฮอลส์ จากมหาวิทยาลัยจอนส์
ฮอปกินส์ กล่าวถึงอาหารที่ควรเลี่ยงเมื่อมีอาการปวดหัว ดังนี้

1. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลมบางชนิด

2. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

3. ช็อกโกแลต

4. เนยแข็ง

5. โยเกิร์ต และซาวร์ครีม

6. ถั่วเปลือกแข็งต่างๆ เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วง ถั่วลิสง เนยถั่ว

7. ไส้กรอก ฮ็อตด็อก เบคอน อาหารกระป๋อง อาหารหมักดอง

8. ผลไม้กระกูลส้ม เช่น ส้มชนิดต่างๆ มะนาว น้ำผลไม้

9. กล้วย ลูกเกด อะโวคาโด สับปะรด

10. ผงชูรส

11. ผักบางชนิด เช่น หอมหัวใหญ่ ถั่วฝักชนิดต่างๆ

ทราบอย่างนี้แล้วก็อย่าลืมหลีกเลี่ยงนะค่ะจะได้หายปวดหัวไวๆ ค่ะ

ดื่มน้ำเพื่อการเผาผลาญ

การดื่มน้ำให้เพียงพอนั้นช่วยให้ระบบการเผาผลาญมีประสิทธิภาพ
ยิ่งขึ้น เพราะเมื่อร่างกายขาดน้ำ ร่างกายจะเผาผลาญแคลอรี่ลดลง
2 เปอร์เซ็นต์ อาจดูเหมือนน้อยแต่ถ้าร่างกายขาดน้ำ หรือได้รับน้ำ
ไม่เพียงพอเป็นประจำ ก็คงไม่เป็นผลดีต่อร่างกายเราเป็นแน่

ปริมาณการดื่มน้ำในแต่ละวันนั้น ไม่ได้กะเกณฑ์ว่าจะต้องมากแค่
ไหน จำนวนเท่าใด แค่ขอให้ดื่มเมื่อรู้สึกว่าร่างกายต้องการก็พอ
แล้ว ซึ่งถ้าเราดื่มน้ำไม่เพียงพอก็สังเกตุได้จาก ปัสสาวะจะมีสีขุ่น
หรือสีเหลืองเข้ม ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการดื่มน้ำให้มากขึ้น

วิธีป้องกันอาการตาฝ้าฟาง

ปัญหาสายตามักเป็นสัญญาณเตือนอย่างหนึ่งที่บอกว่ากำลังเริ่มเข้า
สู่วัยสูงอายุแล้ว และถ้าตอนนี้คุณกำลังเริ่มมีปัญหาสายตาฝ้าฟาง
แล้วเรามาแก้ปัญหา และป้องกัน เพื่อไม่ให้เป็นมากกว่านี้มาฝากค่ะ

5 วิธีป้องกันอาการตาฝ้าฟาง
1. มองไปยังที่ไกลๆ แล้วเหลือบตาไปทางด้านขวา จากนั้นเริ่มต้น
มองไปยังที่ไกลๆ ใหม่ แล้วเหลือบตาไปทางด้านซ้าย ทำซ้ำแบบนี้
3 รอบ

2. หลับตาอย่างแรงๆ เท่าที่จะแรงได้ ทำซ้ำ 3 ครั้ง

3. มองเฉียงขึ้นไปทางด้านบนขวา แล้วมองเฉียงลงด้านล่างซ้าย

4. มองเฉียงขึ้นไปทางด้านบนซ้าย แล้วมองเฉียงลงด้านล่างขวา

5. เบิ่งตากว้างขึ้น แล้วกลอกตาเป็นวงกลมจากขวาไปซ้าย แล้ว
จากซ้ายไปขวา 3 รอบ

หากทำเป็นประจำสม่ำเสมอทุกวัน จะช่วยให้กล้ามเนื้อตาแข็งแรง
ดวงตาสดใส อย่างไกลจากอาการฝ้าฟางได้ค่ะ

ชมพู่ช่วยลดพิษนิโคติน

การสูบบุหรี่นอกจากจะเป็นพิษต่อตัวผู้สูบเองแล้ว ยังเป็นภัยต่อผู้
ใกล้ชิด และคนรอบข้างอีกด้วยนะค่ะ

"ชมพู่" ผลไม้ใกล้ตัวของไทยเรานี่แหละค่ะช่วยได้ดีทีเดียว จาก
หนังสือตำรับยาและอาหารจีนของหมอจีน ฉ่องฮึง แซ่โซว แนะนำ
ว่าผู้ที่สูบบุหรี่ควรกินชมพู่สดเป็นอาหารว่าง เพราะมีสารพฤกษเคมี
บางตัวที่จะเข้าไปช่วยขจัดพิษของนิโคตินออกจากร่างกาย

นอกจากนี้ในตำรายาไทยยังแนะนำว่า ชมพู่สดมีสรรพคุณเป็นยา
บำบุงหัวใจ แก้อาการอ่อนเพลียได้อีกด้วยนะค่ะ รู้อย่างนี้แล้วอย่า
ลืมหาชมพู่มารับประทานกันนะค่ะ สำหรับสาวๆ ทานชมพู่แล้วไม่
ทำให้อ้วนแน่นอนค่ะ

เลือกลิปมันอย่างไรไม่ให้แพ้

เมื่อริมฝีปากแห้ง แตก เป็นขุย หรือเลือดซิบ เราควรทาลิปมันเพื่อ
คงความชุ่มชื้น และสุขภาพดีให้เรียวปาก แทนการเลียริมฝีปาก
แต่ปัญหาอย่างหนึ่งที่พบจากการทาลิปมันก็คือ อาการแพ้นั่นเอง
ดร.แอนดรูว์ ไวล์ ได้แนะนำการเลือกลิปมันเพื่อบำรุงริมฝีปากไว้
ดังนี้ คือ หลีกเลี่ยงลิปมันที่มีส่วนผสมของปิโตรเลียม เพราะก่อ
ให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย แต่ควรเลือกลิปมันที่ทำมาจากสารสกัด
ธรรมชาติ เช่น โกโก้บัตเตอร์ ขี้ผึ้ง น้ำมันทานตะวัน หรือน้ำมัน
อัลมอนด์ ซึ่งนอกจากผิวเราจะรับได้แล้ว ยังมีส่วนช่วยอนุรักษ์
สิ่งแวดล้อมอีกด้วยค่ะ

และอีกวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้ริมฝีปาก อวบอิ่ม นุ่มนวล สีชมพูระเรื่อ
คือ การนำน้ำผึ้งแท้ 1ช้อนชา มาทาที่ริมฝีปาก ทิ้งไว้ 5-10 นาที
วันละ 2ครั้ง เช้า-เย็น แล้วเช็ดออกด้วยสำลีชุบน้ำอุ่น หรือน้ำสะ
อาด เมื่อทำเป็นประจำแค่นี้ริมฝีปากของคุณก็จะอวบอิ่ม นุ่มนวล
สีชมพูระเรื่อแล้วล่ะค่ะ

ผลไม้ดับกลิ่นปาก

ปัญหากลิ่นปากนอกจากจะลดทอนความมั่นใจแล้ว ยังบอกถึงปัญหาสุข
ภาพที่ต้องแก้ไขโดยด่วนอีกด้วย หากยังหาคำตอบไม่ได้ว่าปัญหามา
จากไหน ควรเริ่มแก้ที่อาหารการกิน และการขับถ่ายเป็นอันดับแรกๆ

การกินอะโวคาโด
เป็นวิธีง่ายๆ อย่างหนึ่งที่ช่วยลดปัญหานี้ได้ค่ะ เพราะ
เนื้อของอะโวคาโดจะช่วยกำจัดอาหารที่เน่าเสียตกค้างอยู่ในลำไส้ใหญ่
ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นปากให้หมดไปได้

การบ้วนปากด้วยสูตรธรรมชาติ
โดยการนำน้ำมะนาว 1ช้อนชา และ
น้ำขิงคั้นสด 1ช้อนชา น้ำอุ่น 1แก้ว ผสมให้เข้ากัน กลั้วปากทุกครั้งหลัง
อาหาร

การกินแอ็ปเปิ้ล
อย่างน้อย 1เสี้ยว หลังกินอาหารคราวก็ช่วยลดกลิ่น
ปากได้นะค่ะ

เคี้ยวหมากฝรั่งรสมิ้นท์
ที่เป็นสูตรปราศจากน้ำตาล ก็ช่วยได้ชั่วคราว
ขณะเร่งรีบได้ค่ะ

น้ำมันมะกอกแก้นอนกรน

วันนี้มีเคล็ดลับดีๆ ช่วยคนนอนกรนมาบอกค่ะ
ก่อนนอนให้กินน้ำมันมะกอก สำหรับทำอาหารและควรเลือกที่เป็น
แบบ Extra Virgin Olive Oil สัก 4-5 หยดก่อนนอนก็สามารถ
ช่วยลดเสียงกรนให้เบาลงได้ และเมื่อกินอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับ
วิธีดูแลสุขภาพอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ใน
ระดับมาตรฐาน จะช่วยแก้ปัญหานอนกรนให้หมดไปได้ค่ะ

5 โรคของคนเมือง

ปัจจุบันคนเมืองทุกคนมีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรค ออฟฟิศ ซินโดรม โดย
สาเหตุมาจากพฤติกรรมการทำงาน ทั้งการใช้คอมพิวเตอร์วันละหลายชั่ว
โมง การนั่งอยู่กับที่นานๆ การอดอาหาร อดนอนเพื่อทำงานให้เสร็จ ทำให้
ร่างกายต้องแบกรับภาวะตึงเครียด และส่งผลร้ายต่อร่างกาย ซึ่ง 5 โรคที่
เกาะติดชีวิตคนเมือง ได้แก่
1. ไมเกรน หรือปวดศรีษะเรื้อรัง เกิดจากการเกร็งตัวสะสมของกล้ามเนื้อ
บริเวณบ่าและคอ จนจับตัวเป็นก้อน ที่เรียกว่า จุดกดเจ็บ จุดดังกล่าวไป
กดทับบริเวณเส้นเลือดที่จะนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ จึงทำ
ให้เกิดอาการปวดศรีษะขึ้น
วิธีการป้องกัน พักผ่อนให้เพียงพอ บริหารกล้ามเนื้อบริเวณบ่าและคอให้
มีการยืดหยุ่นอยู่เสมอ เปลื่ยนอริยาบทในการนั่งทำงานเพื่อลดการเกร็งตัว
ของกล้ามเนื้อ

2. ภาวะเสียสมดุล เกิดจากการนั่งทำงานผิดวิธี หรือทำงานในลักษณะ
ซ้ำๆตลอดทั้งวันทำให้ปวดหลังเรื้อรัง ปวดคอ ชาตามแขนขา
วิธีป้องกัน ยือหยุ่นร่างกายทุกๆ 1-2 ชั่วโมงที่นั่งทำงาน ไม่ควรอยู่ในท่า
ใดท่าหนึ่งนานจนเกินไป ควรเพิ่มการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณกระ
ดูกสันหลัง ทั้งการเดิน ยืน นั่ง นอน

3. กระดูกสันหลังคดงอ และปวดหลังเรื้อรัง เกิดจากการทำงานแบบนั่ง
อยู่กับที่วันละมากกว่า 8ชั่วโมง และการใส่รองเท้าส้นสูงของสาวๆ ทำให้
ร่างกายสะสมความอ่อนเพลียและเมื่อยล้าไว้ ส่งผลให้มีอาการปวดหลัง
เรื้อรังและกระดูกสันหลังคดงอในที่สุด

4. ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ เกิดจากการใช้ข้อมือยึดจับเมาส์คอมพิว
เตอร์ เป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อกดทับเส้นประสาท และเส้นเอ็นจนอัก
เสบ


5. โรคประสาทหูเสื่อม เกิดจากการฟังเพลงผ่านทางโทรศัพท์มือ และ
เครื่องเล่น MP3 การโทรศัพท์นานๆ โดยใช้ชุดหูฟัง

เรื่องเล็ก ๆ แต่ไม่ควรมองข้าม

เรื่องบางเรื่องเราอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เลยไม่ค่อยจะใส่ใจ ทว่า
สำหรับเรื่องสุขภาพร่างกายแล้วนั้น เรื่องเล็กน้อยก็อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
ได้ถ้าเราปล่อยปละละเลยเป็นเวลานาน มาดูกันว่าเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ว่านี้
คืออะไร
1. การดื่มน้ำปริมาณมากๆ และเร็วๆ ในขณะเหนื่อยหอบ ร่างกายจะขับโพ-
แทสเซียมออกจากเซลล์เพื่อปรับสมดุลระหว่างน้ำในเซลล์และน้ำนอกเซลล์
ผลที่ตามมาคือ กล้ามเนื้อเกร็ง หรือเกิดอาการเกร็งที่สมอง หัวใจ หรือ
ปอดทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและอาจถึงเสียชีวิตได้ วิธีสังเกตง่ายๆ คือ ถ้า
เมื่อไหร่ที่มีอาการจุกขณะดื่มน้ำ นั่นแสดงว่าคุณดื่มน้ำมากไป หรือดื่มน้ำเร็วไป

2. การปล่อยให้ตัวเองหิว อาจนำไปสู่โรคร้ายได้ เพราะความหิวจะไปกระตุ้น
ร่างกายให้หลั่งฮอร์โมนความเครียด ซึ่งหากเกิดขึ้นเป็นประจำ จะทำให้เกิด
โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือโรคเบาหวาน

3. การนอนไม่เป็นเวลา เช่น การนอนดึกในคืนวันศุกร์-เสาร์ แล้วตื่นสายใน
วันเสาร์-อาทิตย์ จะทำให้นาฬิกาในร่างกายตั้งเวลาตื่นใหม่ เมื่อถึงวันจันทร์
คุณจึงมีอาการงัวเงียไม่อยากตื่น ทั้งยังทำให้ขาดสมาธิในการทำงาน หรือ
เรียนหนังสือ

4. การไอเรื้อรังที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ยาปฎิชีวนะที่แพทย์สั่งเพื่อรักษา
อาการหวัดนั้น ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ วิธีแสนธรรมดาแต่ได้ผลกว่าคือ
การดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ ครั้งละน้อยๆ เพื่อลดเสมหะในทางเดินหายใจ อมยาอม
ที่ไม่มีน้ำตาลเพื่อให้ลำคอชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลาเพื่อลดการระคายเคืองในลำ
คอ และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ

5. แสงแดดยามเช้าไม่ได้ช่วยให้กระดูกแข็งแรงเท่านั้น แต่การออกกำลังกาย
กลางแดดอ่อนๆในช่วงเช้า ยังช่วยให้ร่างกายผลิตสารแอนโดร์ฟิน ซึ่งจะทำ
ให้คุณร่าเริง อารมณ์ดีไปทั้งวันได้อีกด้วยนะค่ะ

เพื่อนแทงข้างหลัง

เพื่อนมีหลายประเภท ทั้งแบบที่จริงใจ แบบผิวเผิน และแบบชอบแทงข้างหลัง
เพื่อนแทงข้างหลัง - เพื่อนที่รับฟังความลับ และเรื่องทุกข์ใจของคุณทั้งหมด
แต่ลับหลังเขาหรือเธอกลับเอาเรื่องที่คุณเล่าให้ฟังไปโพนทะนาให้ทั่วซะงั้น
วิธีรับมือ - ถามตัวเองว่ายังอยากจะคบกับเพื่อนคนนี้อยู่หรือไม่ ถ้าหัวใจคุณ
รับไม่ได้ ก็ยุติความเป็นเพื่อนลงเสีย แต่คิดว่ายังพอให้อภัยกันได้ ก็ขอให้รีบ
บอกความในใจของคุณให้เธอรู้เสียว่า คุณไว้ใจเธอมากแค่ไหน และอย่าลืม
ว่าต่อไปนี้คุณไม่ควรบอกเรื่องที่เป็นความลับให้เธอฟังอีก ถ้าคุณยังไม่แน่ใจ
ว่าเธอจะไม่เอาเรื่องที่คุณเล่าไปบอกใครอีก

ประโยชน์ของน้ำบีทรูท

การดื่มน้ำบีทรูทคั้นสด จะช่วยบำรุงโลหิต ฟอกเลือด ขับปัสสาวะ
แก้เจ็บคอ แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยเจริญอาหาร และล้างพิษ ทำให้
ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งมีเลือดฝาด นอกจากนี้ส่วนประกอบสีแดง
ของบีทรูท หรือที่เรียกว่า สารเบทานิน (Betanin) ที่เต็มไปด้วย
วิตามินซี ยังช่วยเพิ่มออกซิเจนให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายได้ถึง
400% จึงช่วยให้ห่างไกลจากโรคมะเร็ง

เริมริมฝีปาก

เริมที่ขึ้นที่ริมฝีปากนั้นไม่ใช่หนึ่งในโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อย่างที่คน
ส่วนใหญ่เข้าใจ แต่เป็นอาการติดเชื้อไวรัส โดยมีสาเหตุหลากหลาย เช่น
ความเหนื่อยล้าของร่างกาย การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือสุขภาพอนามัยที่
บกพร่อง วิธีรักษานั้นไม่ยากเลยค่ะ
1. ทานอาหารที่มีไบโอฟลาวานอยด์ สังกะสี และวิตามินซี ผักใบเขียวต่างๆ
และผลไม้ ติดต่อกัน 5วัน จะช่วยให้อาการทุเลาลง

2. อย่าสัมผัสแตะต้องบริเวณที่เป็น และหลีกเลี่ยงการทาผลิตภัณฑ์ หรือ
เครื่องสำอางใดๆ บริเวณที่เป็น ที่สำคัญควรหลบแดดหรือความร้อนจาก
แหล่งต่างๆที่ทำให้เหงื่อออก เพราะอาจจะกระตุ้นให้เริมกำเริบใหญ่ขึ้นได้

3. เลี่ยงอาหารรสจัด รสเค็ม และควรใช้ช้อนกลางเวลารับประทานอาหาร
ต่างๆ และงดใช้เครื่องใช้ต่างๆร่วมกับผู้อื่น

4. อย่าเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำวันละ 6-8แก้ว

5. ห้ามจูจุ๊บ! นะจ๊ะ (รอให้หายก่อน)