Welcome to my blog, hope you enjoy reading
RSS

ผักต้านมะเร็ง


มะเขือเทศ มีกรดพีคูมาริก(p–Coumaric acid)และกรดคลอโร
จีริก (Chlorogenic Acid) อยู่เป็นจำนวนมาก กรดเหล่านี้จะ
แย่งจับกับไนไตรท์ แล้วขจัดออกจากร่างกาย ก่อนที่ไนไตรท์
จะไปจับกับเอมีนส์กลายเป็นสารที่ก่อมะเร็งชื่อไนโตรซามีนส์
การทานมะเขือเทศสดอย่างน้อย7ครั้งต่อสัปดาห์ จะลดความ
เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ปอด และกระเพาะลงได้
ครึ่งหนึ่ง

พริก สารแคปไซซิน ในพริกช่วยลดพิษของสารก่อมะเร็งได้
ช่วยไม่ให้มีการจับตัวระหว่างไนไตรท์กับ เอมีนส์ซึ่งจะกลาย
เป็นสารอันตราย พริกยิ่งเผ็ดเท่าไรก็ยิ่งมีแคปไซซินมากเท่า
นั้น

ส้มและมะนาว ในส้มและมะนาวมีสารลิโมนีน (Limonene)
อยู่เป็นจำนวนมากซึ่งมีส่วนในการกระตุ้นเอนไซม์ในร่างกาย
ให้เพิ่มขึ้นเพื่อสลายสารก่อมะเร็ง และกระตุ้นให้เซลล์ภูมิคุ้ม
กันที่มีหน้าที่ฆ่าเซลล์มะเร็งมีความกระปรี้กระเปร่าขึ้น

กระเทียม กระเทียมช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งกระ
เพาะอาหาร บางงานวิจัยระบุว่าสามารถลดได้ ถึง40%เมื่อ
กินมากพอสาร S- allylmercaptocysteine ช่วยลดการเกิด
มะเร็งในต่อมลูกหมาก (50%) และกระเทียมยังช่วยเพิ่ม ระ
ดับเอนไซม์ที่จะทำหน้าที่ล้างพิษของสารก่อมะเร็ง สารนี้จะ
มีขึ้นเมื่อทุบกระเทียมให้แตกก่อนแล้ววางทิ้งไว้ 10 นาที
ก่อนจะนำไปใช้ ไม่ควรกินกระเทียมขณะท้องว่างอาจจะเกิด
ระคายเคือง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องได้

ชะเอม พืชชนิดนี้มีความหวานมากกว่าน้ำตาล50เท่า มีสาร
สำคัญที่ชื่อกลีไซร์ไรซิน(glycyrrhisin) ที่จะช่วยปกป้อง
จากสารก่อมะเร็ง

ถั่วเหลือง มีสารต้านมะเร็งในปริมาณค่อนข้างสูง ที่ช่วยลด
ความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งที่เนื่องมาจากฮอร์โมนเช่น มะ
เร็งเต้านม นอกจากนี้ ถั่วเหลืองมีสารคล้ายฮอร์โมนเพศ
หญิงไปแข่งกับฮอร์โมนในร่างกาย เข้าสู่เซลล์โดยจับกับ
หน่วยรับบนเซลล์ที่เดียวกันแต่สารนี้เมื่อส่งสัญญาณให้
เซลล์เจริญเติบโตนั้นมีเพียง 1 ใน 1,000 เท่านั้น ทำให้
เซลล์เจริญเติบโตน้อยลง ลดการเจริญเติบโตของเนื้องอก
และป้องกันการเกิดมะเร็งสำหรับผู้ชาย ช่วยลดการเกิดมะเร็ง
ที่ระบบสืบพันธุ์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม

ชาเขียว ใบชาเขียวได้มาจากการนำยอดใบชาสดผ่านกระ
บวนการอบเพื่อลดความชื้นโดยไม่ผ่าน การหมัก จึงมีสาร
กลุ่ม Polyphenol เหลืออยู่จำนวนมาก สารนี้ต่อต้านอนุมูล
อิสระได้มากกว่าวิตามินอี 20 เท่า และมากกว่าวิตามินซีถึง
500เท่า ใบชาเขียวมีสารพอลิฟินอล ซึ่งเป็นสารแอนติออก
ซิแดนท์ ที่มีบทบาทในการป้องกันโรคมะเร็ง งานวิจัยจาก
สถาบันวิจัยแห่งชาติญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่า สารเคทีซิน
(catechin) ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักในแทนนินของชาเขียว
สามารถลดอุบัติการของโรคมะเร็งได้ ดื่มชาเขียววันละ 4
แก้ว ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งชาแก่ทำให้ท้องผูก
ดื่มก่อนนอนอาจทำให้ไม่หลับ ชงชาไว้นานจะมีแทนนินออก
มามากทำให้มีรสฝาดไม่น่าดื่ม ปริมาณเหมาะสมจะช่วยย่อย
อาหาร ควรใช้น้ำเดือดใส่ในใบชา 1 ช้อนชา ตั้งทิ้งไว้ 3-5
นาทีก่อนดื่ม

กะหล่ำดอก เป็นผักตระกูลมัสตาร์ด มีสารที่สามารถดึงสารก่อ
มะเร็งออกจากเซลล์ โดยมี สารซัลโพราเฟน ซึ่งไปลดการ
ผลิตเอนไซม์ที่จะไปทำอันตรายสารพันธุกรรม DNAในเซล
พืชวงศ์นี้รวมทั้ง บร็อคโคลี คะน้า และกะหล่ำต่างๆ กะหล่ำดิบ
มีวิตามินซีสูง มีธาตุโพแตสเซี่ยม กำมะถัน และเส้นใยมาก

กะหล่ำปลี ใบมีสารไดไทโอลไทออนส์ และสารกลูโคซิโน
เลทเมื่อแตกตัวจะเป็นสารต้านมะเร็ง ออกฤทธิ์โดยเฉพาะต่อ
ต้านกับมะเร็งลำไส้ แต่หากกินมากไปจะทำให้เกิดคอหอย
พอกได้เพราะมีสารไปกั้นการดูดซึมไอโอดีนที่ ต่อมไทรอยด์
ผู้เป็นโรคไทรอยด์ไม่ควรบริโภคมากเพราะไปลดระดับไท-
รอยด์ฮอร์โมนในเลือดหาก กินติดต่อกันนานๆ มีอีกหลายสี
เช่นสีม่วงแดง ห้ามรับประทานกะหล่ำสีแดงสดๆเพราะมีเหล็ก
สูงมาก จะทำให้ท้องผูก

ขึ้นฉ่าย มีสารต้านมะเร็ง เช่น ทาไลด์และโพลีอเซทิลีน ทำให้
สารก่อมะเร็งหมดฤทธิ์ โดยเฉพาะที่เกิดจากบุหรี่ มีฤทธ์ลด
การสร้างอสุจิ ช่วยคุมกำเนิดลดอัตราการตั้งครรภ์ บางคน
อาจแพ้ได้หากกินก่อน หรือหลังการออกกำลังกายอย่างหนัก

คะน้า อยู่ในวงศ์เดียวกันกับผักกวางตุ้ง กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก
ผักกาดขาว บร็อคโคลี และผักกาดหัว คะน้ามีสารอินโดลส์
ยับยั้งการเกิดมะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งที่เต้านม โดยการไปจับ
กับฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนซึ่งกระตุ้นการเกิดเนื้องอก
และมะเร็งลำไส้ มีสารต้านอนุมูลอิสระเบต้าแคโรทีน และ
วิตามินซีสูงมาก ทำให้มีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งที่มีประ
สิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีพืชผักอีกหลายชนิดที่มีคุณสมบัติ
ในการต่อตัานมะเร็ง เช่น ขมิ้น ข่า เมล็ดข้าวโพด ขิง แครอท
ชะพลู ดีปลี ตะไคร้ แตงกวา ใบบัวบก ผักชี ผักชีฝรั่ง ฟักทอง
ใบมะกรูด มะเขือยาว หรือ มะเขือม่วง มะระจีน มะระขี้นก
มันเทศ ต้นหอม และหอมใหญ่ โหระพา เป็นต้น